บทความที่ได้รับความนิยม

1 ส.ค. 2557

แสร้งว่า กุ้ง-ปลาดุกฟู

๏ ไตปลาเสแสร้งว่า
ดุจวาจากระบิดกระบวน
ใบโศกบอกโศกครวญ          
ให้พี่เคร่าเจ้าดวงใจ

เย็นนี้มี "แสร้งว่า" ทานกับใบชะพลูต้นที่บ้านค่ะ


สูตรแสร้งว่า กุ้ง-ปลาดุกฟู
ปลาดุกฟู 1ถ้วย
กุ้งย่างหั่นบาง 1 ถ้วย
หอมแดงซอยบาง 1/2 ถ้วย
ขิงอ่อนซอยบาง 1/2 ถ้วย
ตะไคร้ซอยบาง 1/4 ถ้วย
ใบมะกรูดหั่นฝอย 2 ชต.
พริกชี้ฟ้าหั่นฝอย 1 เม็ด
ผักชีเด็ดใบ 1 ต้น
ส่วนน้ำปรุง
น้ำมะนาว 4 ชต.
น้ำมะขามเปียกข้นๆ 4 ชต.
น้ำปลา 3 ชต.
น้ำตาลมะพร้าว 1 ชต
น้ำตาลทราย 1/2 ชต

ใบชะพลู และผักเคียงตามชอบ

วิธีทำ
1. ผสมน้ำปรุงยกเว้นมะนาวตั้งไฟพอเดือด ใส่มะนาวคนพอเข้ากัน ชิมให้ได้สามรส
2. ผสมส่วนผสมที่เหลือยกเว้นใบผักชีในอ่างผสม พรมน้ำปรุงเคล้าเบาๆ พอให้ชุ่มแต่ไม่แฉะ
3. ตักใส่จานเสิร์ฟพร้อมผักเคียง

29 มิ.ย. 2557

ช่อม่วงและจีบตัวนก

วันนี้ตาลมีขนมไทยที่เดี๋ยวนี้หาทานยากมาฝากค่ะ สองเมนูนี้ต่างกันที่วิธีการจับจีบ แต่แป้งและไส้เหมือนกัน มาดูส่วนผสมกันเลยนะคะ

ส่วนไส้ไก่
สามเกลอ 2 ชต.
อกไก่ไม่ติดหนังสับละเอียด 2 ถต.
น้ำตาลมะพร้าว 1 ถต.
หอมแดงสับละเอียด 1/2 ถต.
ซีอิ้วขาว เกลือ สำหรับปรุงรส
น้ำมันสำหรับผัด
วิธีทำ
1. ผัดสามเกลอให้หอม
2. ใส่หอมแดง ผัดจนหอมใส
3. ใส่ไก่และซีอิ้วขาวเล็กน้อยรวนจนสุกดี
4. ใส่น้ำตาลมะพร้าว กวนจนน้ำตาลรัด ปรุงรสด้วยเกลือ ให้ได้รสหวานเค็ม กวนต่อจนปั้นได้

สวนแป้ง
แป้งข้าวเจ้า 162 กรัม
แป้งข้าวเหนียว 50 กรัม
แป้งมัน 25 กรัม
แป้งท้าวยายม่อม 15 กรัม
น้ำมันพืช 45 กรัม
น้ำดอกอัญชัน 470 กรัม
วิธีทำ
ผสมทุกอย่างคนให้เข้ากัน เทลงกระทะทองเหลือง ตั้งไฟอ่อน กวนจนแป้งสุก ไม่ติดมือ
ยกลงนวดกับแป้งมันจนนุ่มมือ

ประกอบร่าง
นำแป้งมาคลึงเป็นก้อนกลม ขนาดประมาณเหรียญ 5 บาท
คลี่แป้งเป็นวงกลมแบน
ใส่ไส้ลงตรงกลาง ห่อให้มิด
ใช้แหนบจีบเป็นดอกไม้ หรือตัวนก
เรียงลงลังถึง พรมน้ำ นึ่งประมาณ 3-4 นาที
นำลงเรียงบนจาน พรมน้ำมันกระเทียมเจียว เสิร์ฟกับผักกาดหอม ผักชี และพริกขี้หนูสวน

19 พ.ค. 2557

กุ่ยช่ายกุหลาบ บ้านน้ำตาล

สวัสดีค่ะ เมื่อวานตาลทำกุ่ยช่ายกุหลาบ และมีพี่ๆเพื่อนๆ ขอสูตรมาเยอะเลย วันนี้เลยมาลงสูตรให้ตามคำเรียกร้องนะคะ สูตรนี้ตาลปรับจากสูตรของป้าสายหล่มสัก เพื่อให้ได้แป้งขนมที่ปั้นขึ้นรูปได้ง่ายขึ้น และไม่ใสมากจะได้เห็นสีเวลาทำเป็นดอกไม้ค่ะ ก่อนไปดูของในครัว เรามาดูหน้าตาขนมกระตุ้นความอยากกันก่อนดีกว่า

ส่วนผสม สำหรับ 15 ลูก
ส่วนไส้กุ่ยช่าย
1. กุ่ยช่ายซอยเล็กๆ 200 กรัม
2. กระเทียม 1 ชต.
3. น้ำมันพืช 2 ชต.
4. เกลือ 1/2 ชช.
5. น้ำ 1 ถต.
6. น้ำตาล 1 ชช.
7. เบคกิ้งโซดา 1/4 ชช.

ส่วนแป้ง
1. แป้งข้าวเจ้า 1 ถต.
2. แป้งมัน 2 ชต.
3. แป้งท้าว 1 ชต.
4. แป้งข้าวเหนียว 1 ชต.
5. น้ำมัน 4 ชต. (กวนพร้อมแป้ง)
6. น้ำมัน 1-2 ชต. สำหรับนวดแป้ง และกันแป้งติดมือ
7. แป้งมันสำหรับทำแป้งนวล

ส่วนน้ำจิ้ม
1. ซีอิ้วหวาน 2 ชต.
2. ซีอิ้วขาว 2 ชต.
3. น้ำส่มสายชู 2 ชต.
4. น้ำตาลทราย 4 ชต.
5. พริกเหลืองและพริกแดงเม็ดใหญ่ โขลกพอแหลก
6. กระเทียมจีนกลีบใหญ่ 2 กลีบสำหรับทำกระเทียมเจียว
7. ผักเคียง เช่นผักกาดหอม และผักชี

วิธีทำ
1. ทำส่วนไส้ โดยผสมทุกอย่างรวมกันเคล้าให้เข้ากันปิดฝาพักไว้
2. ทำแป้งโดยผสมส่วนผสมส่วนของแป้ง ข้อ 1-6 รวมกันคนให้แป้งละลาย เทใส่กระทะเทฟร่อน เปิดไฟกลางคนตลอด พอแป้งเริ่มข้นขึ้นจนเริ่มจับตัวกันเบาไฟลงเป็นไฟอ่อนกวนต่อจนแป้งสุกประมาณ 70% ทดสอบโดยแป้งร่อนออกจากระทะ และเมื่อใช้นิ้วจิ้มแป้งดูถ้าแป้งไม่ติดมือเป็นอันใช้ได้
3. นำแป้งที่กวนได้ที่แล้วออกจากเตา นวดให้แป้งเนียนและเย็นลง หากติดมือนิดหน่อยสามารถใช้น้ำมันทามือแล้วนวดต่อได้ เมื่อแป้งเนียนและอุ่นลงแล้ว ผสมสีตามชอบ เมื่อได้สีที่ต้องการ แบ่งแป้งเป็นก้อน ประมาณ ก้อนละ 10 กรัม พักไว้ในภาชนะปิด ไม่ให้แป้งโดนลม จะได้ไม่แห้งค่ะ

4. นำแป้งมาคลึงเป็นแผ่นกลม หนานิดก็ได้นะคะ จะได้จีบง่ายๆ ใส่ไส้ลงตรงกลาง ห่อให้มิด


5. ใช้แหนบจีบช่อม่วงหนีบแป้งเป็นดอกไม้ ระวังอย่าให้แป้งแตก เพราะเดี๋ยวนึ่งจะทำให้ไส้แตกออกมา และเวลาหนียให้หนีบเป็นรอยชัดซักหน่อย เวลานึ่งแล้วจะได้เห็นกลีบดอกชัดๆ เมื่อจับจีบเสร็จแล้วเรียงใส่ถาด คลุมด้วยผ้าขาวบางชุบน้ำหมาดๆ แป้งจะได้ไม่แห้งค่ะ



6. ตั้งรังถึง เรียงใบตอง วางขนมลงบนใบตองให้ห่างกันเล็กน้อย พอน้พเดือด พรมน้ำเล็กน้อยบนขนม นำขึ้นนึ่งประมาณ 12-15 นาที จนขนมสุก


7. ระหว่างรอขนมสุก ทำน้ำจิ้มโดยผสมส่วนของน้ำจิ้มทุกอย่างยกเว้นพริก ในถ้วยแก้วทนไฟ นำเข้าไมโครเวฟ ไฟ 650 watt 2 นาที นำออกมาคนให้น้ำตาลละลาย ใส่พริก นำเข้าเวฟต่ออีก 1 นาที พักให้เย็น
8. เจียวกระเทียม โดยสับกระเทียมให้ละเอียด ใส่ในถ้วยแก้วทนไฟ ใส่น้ำมันพอท่วมกระเทียม นำเข้าไมโครเวฟไฟ 650 watt ทีละ 1 นาที นำออกมาคนถ้ายังไม่เหลืองให้เข้าต่อทีละ 1 นาที จนได้กระเทียมเจียวสีเหลืองสวย
ประกอบร่าง โดยเรียงขนมที่นึ่งสุกบนจาน พรมด้วยน้ำมันกระเทียมเจียว และโรยด้วยเกล็ดกระเทียมเจียวกรอบๆหอมๆ เคียงกับน้ำจิ้ม และผักเคียงค่ะ

17 พ.ค. 2557

เค้กกล้วยหอม สูตรไม่ใช้เนยและนม

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้ตาลมีสูตรขนมโปรดประจำบ้าน มาฝากกันค่ะ กับเค้กกล้วยหอม สูตรนี้ตาลเลือกที่จะไม่ใช้นมและเนย เนื่องจากสูตรนี้เป็นขนมโปรดของคุณแม่และคุณย่าแต่ทั้ง 2 ท่านมีปัญหาเรื่องโคเลสเตอรอลสูง ดังนั้นตาลจึงเลือกปรับสูตรให้เหมาะกับคนทานค่ะ พร้อมแล้วมาดูสูตรกันเลยนะคะ

ส่วนผสม สำหรับ 3 ถาดปอนด์ค่ะ
1. แป้งเค้ก 200 กรัม
2. ผงฟู 1 1/2 ชช.
3. เบคกิ้งโซดา 1 ชช.
4. น้ำตาล 160 กรัม
5. เกลือ 1/2 ชช.
6. น้ำมันรำข้าว 1 ถต.
7. วนิลาสกัด 1 ชช.
8. ไข่ไก่เบอร์สอง 3 ฟอง
9. กล้วยหอมสุกจัดๆ ชั่งไม่รวมเปลือก 200 กรัม
10. น้ำมะนาว 1 ชช.


 วิธีทำ
1. วอร์มเตาอบ 160 องศา
2. บดกล้วยกับน้ำมะนาว พักไว้
3. ร่อนแป้งกับผงฟูและโซดา พักไว้
4. ตีไข่พอเป็นฟอง ใส่น้ำตาลและเกลือ ตีต่อด้วยความเร็วสูง จนขึ้นฟูและสีอ่อนลง ประมาณ 6 นาที
5. ค่อยๆใส่แป้งที่ร่อนไว้ คนพอเข้ากัน
6. ใส่น้ำมันและกลิ่นวนิลา ตีความเร็วกลางประมาณ 2 นาที จนได้ Ribbon Batter

7. ใส่กล้วยที่บดไว้ คนให้เข้ากัน
8. เทใส่พิมพ์ ตัดฟองอากาศ นำเข้าอบรอบแรก 20-30 นาที
9. นำขนมออกมากรีดหน้า เพื่อให้หน้าแตกสวย อบต่ออีก 20-30 นาที่ หรือจนขนมสุก
เมื่อขนมสุกแล้ว นำมาพักบนตะแกรงจนเย็นค่อยปิดฝานะคะ

เสร็จแล้วค่ะเห็นไหมคะว่าสูตรนี้ง่ายจริงๆ หวังว่าเพื่อนๆจะมีความสุขกับขนมโปรดบ้านน้ำตาลนะคร้า เมนูหน้าจะเป็นอะไรเดี๋ยวเย็นนี้มารอลุ้นกันค่ะ

10 พ.ค. 2557

ขนมน้ำดอกไม้ .. หอมดอกไม้ นุ่มหนึบ หวานละมุน และสีหวานจ๋อย

วันนี้ตาลมีเมนูขนมไทยที่ทำง่ายมากๆ แถมยังออกมาน่าตาน่ารักน่าเอ็นดู และอร่อยซะด้วยซิคะ มาฝากกันค่ะ ขนมไทยส่วนใหญ่มีวิธีทำหลายขั้นตอน ต้องปราณีต บรรจงทำ แต่ขนมน้ำดอกไม้วันนี้มีส่วนผสมแค่ไม่กี่อย่าง แล้วก็มีวิธีทำแค่ไม่กี่ขั้นตอนเองค่ะ เหมาะกับมือใหม่หัดทำขนมอย่างตาลมากๆค่ะ

มาดูส่วนผสมกันก่อนนะคะ
สูตรวันนี้ตาลใช้สูตรของ ครัวบ้านพิม เอามาปรับวิธีทำนิดหน่อยนะคะ
ขอบคุณ ครัวบ้านพิม ด้วยค่ะ
ส่วนผสม สำหรับ 20 ถ้วย
1. น้ำลอยดอกไม้สด 3/4 ถต.
2. แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถต.
3. แป้งมัน 2 ชต.
4. น้ำตาลทรายขาว 1/2 ถต.
5. สีผสมอาหาร
6. น้ำลอยดอกไม้สดสำหรับนึ่ง และผสมสี
7. เกลือปลายหยิบมือ
วิธีทำ
1. ทำน้ำเชื่อม โดยผสมน้ำลอยดอกไม้กับน้ำตาลและเกลือ ใส่ไมโครเวฟไฟ 800 วัตต์ 1-2 นาที นำออกมาคนให้น้ำตาลละลายหมด ปิดถ้วยให้สนิทกันกลิ่นดอกไม้ออก พักไว้ให้เย็น
2. ร่อนแป้งทั้ง 2 ชนิดเข้าด้วยกัน 2 รอบ

3. ผสมแป้งกับน้ำเชื่อม โดยทำแป้งเป็นหลุม ใส่น้ำเชื่อมลงในหลุม แล้วคนให้เข้ากัน จนไม่มีเม็ดแป้งอยู่

4. ตั้งลังถึงโดยใส่น้ำลอยดอกไม้ในลังถึงประมาณครึ่งหนึ่ง เรียงถ้วยตะไลบนตะแกรง เว้นช่องว่างให้ไอน้ำขึ้นมาได้ ปิดฝา ตั้งไฟแรง 15 นาที

5. กรองแป้งที่ผสมแล้วผ่านตะแกรงตาถี่ แยกใส่ถ้วยตามจำนวนสีที่จะผสม ตาลทำ 4 สีก็แยก 4 ถ้วยค่ะ ผสมสี โดยนำสีที่จะผสม ผสมน้ำเล็กน้อยก่อน แล้วค่อยๆ ผสมลงในแป้ง ใฟ้สีอ่อนกว่าที่ต้องการจริงเล็กน้อย เพราะเดี๋ยวนึ่งแล้วสีจะเข้มขึ้นนิดนึงค่ะ

6. พอถ้วยร้อนได้ที่แล้วเปิดรังถึง เทแป้งที่ผสมสีแล้วลงในถ้วยจนครบ ปิดฝานึ่งต่ออีก 15 นาที
7. พอขนมสุกให้ยกถ้วยตะไลขึ้นหล่อในน้ำเย็น จะทำให้ขนมร่อนหลุดจากพิมพ์ง่ายขึ้น

8. พอขนมเย็นลงแล้วใช้ไม้เล็กๆกรีดรอบปากถ้วย ดันขนมออกมา จัดเสิร์ฟ หรือใส่กล่องอบด้วยดอกไม้สดรอเสิร์ฟก็ได้ค่ะ

Tan's Tips
1. น้ำลอยดอกไม้สดตาลใส่ดอกชมนาด หรือดอกข้าวใหม่ไปด้วยค่ะ ดอกข้าวใหม่กลิ่นเหมือนข้าวหอมหุงสุกใหม่ๆ เข้ากันได้ดีกับขนมที่มีแป้งข้าวเจ้าเป็นส่วนผสมหลักอย่างขนมน้ำดอกไม้ได้ดีค่ะ
2. เกลือที่ใส่ในน้ำเชื่อมจะช่วยตัดรสขนมให้กลมกล่อมขึ้น แต่ใส่แค่นิดเดียวนะคะ ให้คนทานรู้สึกว่าไม่หวานเจื้อยแจ้ว แต่อย่าให้จับได้ว่าใส่เกลือเป็นอันใช้ได้ค่ะ
3. การร่อนแป้ง และกรองแป้งที่ผสมแล้วจะทำให้ขนมที่ได้เนื้อเนียนละเอียดขึ้น
4. การอุ่นถ้วยด้วยการนำถ้วยไปนึ่งก่อนจะทำให้ขนมหน้าบุ๋มสวยค่ะ
5. เวลานึ่งขนมให้นึ่งไฟแรงแต่อย่าให้เดือดปุดๆ เพราะถ้าเดือดแรงเกินไปจะทำให้ถ้วยขยับแล้วขนมที่ได้ไม่สวยค่ะ
จบกระบวนการแล้วค่ะ เห็นไหมคะว่าขนมชนิดนี้ไม่ยาก แค่ใส่ใจก็จะได้ขนมอร่อยๆ สีสวยหวานไว้ทานกะหวานใจแล้วนะคะ ^^

4 พ.ค. 2557

บัวลอยเผือกหอมกะฟักทองญี่ปุ่น ในน้ำกะทิใบเตยมะพร้าวอ่อน

บัวลอยฟักทองญี่ปุ่นกะเผือกหอม ลอยในน้ำกะทิใบเตยมะพร้าวอ่อน หอม หวาน ทานด้วยกันนะคะ ^^
เนื่องจากสูตรนี้เป็นสูตรที่บ้าน เวลาทำคุณแม่ไม่ได้ตวงเป๊ะๆ แบบตำราอาหาร ใช้กะและชิมเอาซะส่วนใหญ่ ตาลลองตวงแบบกลางๆ มาให้ แต่เวลาทำต้องชิมอยู่ดีนะคะ

ส่วนผสม
1) ส่วนแป้งบัวลอย
1. แป้งข้าวเหนียว 3/4 ถต.
2. แป้งมัน 1/4 ถต. + ใช้เป็นแป้งนวลเล็กน้อย
3. เผือกหอมนึ่งสุกบดผ่านตะแกรง 1 ถต (ถ้าใช้ฟักทองก็ใช้ในปริมาณเท่ากันค่ะ ที่ตาลทำใช้ฟักทองญี่ปุ่นนึ่งและบดค่ะ)
4. น้ำลอยดอกมะลิ สำหรับนวดแป้ง

2) น้ำเชื่อมลอยดอกมะลิ สำหรับพักบัวลอย
1. น้ำลอยดอกมะลิ 2 ถต.
2. น้ำตาลทราย 2 ถต.

3) ส่วนกะทิใบเตยมะพร้าวอ่อน
1. หัวกะทิ 1 ถต.
2. หางกะทิ 1 ถต.
3. น้ำมะพร้าวอ่อน 1/2 ถต
4. เนื้อมะพร้าวอ่อน 1 ลูก
5. น้ำตาลมะพร้าว 3 ชต.
6. น้ำตาลทราย 3 ชต.
7. เกลือทะเล 1 ชช. (ถ้าใช้เกลือป่นต้องลดปริมาณเกลือลงนะคะ)
8. ใบเตย 3-4 ใบ

วิธีทำ
1. ทำน้ำเชื่อมโดยผสมน้ำตาลกับน้ำลอยดอกมะลิ คนให้ละลายก่อนตั้งไฟพอเดือดหรี่ไฟอ่อนจนน้ำตาลละลายหมด ยกขึ้นใส่ตู้เย็นพักไว้
2. ทำส่วนแป้งบัวลอย โดยผสมแป้งทั้งสองชนิดกับเผือกที่บดเตรียมไว้ นวดให้เข้ากัน ค่อยๆเติมน้ำลอยดอกมะลิจนแป้งเป็นก้อนเนียนดี ปั้นเป็นก้อนกลมขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย ปิดด้วยผ้าขาวบางชุบน้ำ ทำซ้ำกับฟักทอง
3. ทำส่วนกะทิ โดยผสมหัวกะทิ หางกะทิ น้ำมะพร้าว น้ำตาลทั้ง 2 ชนิด และเกลือ ตั้งไฟพอเดือด หรี่ไฟ ใส่ใบเตย ชิมรสให้หวานกลมกล่อม ตั้งไฟต่ออีกแป๊บเดียวพอให้ได้กลิ่นใบเตย ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อน ปิดไฟ ตักใบเตยออก พักไว้
4. ตั้งน้ำ พอเดือดหรี่ไฟลง ใส่เม็ดบัวลอยที่ปั้นไว้ทีละน้อย รอจนแป้งสุกลอยขึ้นมา ตักขึ้นใส่ในน้ำเชื่อมที่เตรียมไว้
5. เวลาจะทาน ตักบัวลอยที่สุกแล้วสะเด็ดน้ำเชื่อม ใส่ถ้วย ตักน้ำกะทิใบเตยมะพร้าวอ่อนใส่ด้านบน ถ้าใครชอบกลิ่นงา จะใส่งาขาวคั่วด้วยก็ได้นะคะ

หมายเหตุ
1. ใช้น้ำลอยดอกมะลินวดแป้ง แป้งที่ได้จะหอมดอกไม้อ่อนๆ อร่อยเป็นพิเศษ เหมาะกับหน้าร้อนที่มะลิบานเต็มต้นอย่างตอนนี้ค่ะ
2. เวลาทำน้ำเชื่อม อย่าคน เพราะจะทำให้น้ำตาลตกผลิกเป็นเกล็ดๆ
3. เวลาชิมน้ำกะทิว่าได้ที่หรือยัง ทำได้โดย ชิมให้รสหวานมันเค็มปะแล่มโดยจับไม่ได้ว่ามีรสเค็มของเกลือเป็นอันใช้ได้
4. ใบเตยขยำให้ช้ำนิดหน่อยก่อนใส่หม้อต้มจะทำให้กลิ่นออกดีค่ะ
หมดแล้วค่ะ หวังว่าทุกๆ ท่านจะมีความสุขกับสูตรรักสูตรอร่อยจากครัวบ้านน้ำตาลนะคะ

3 พ.ค. 2557

เมนูมื้อเช้า พิเศษสำหรับวันหยุดกับ Egg Benedict

สวัสดีวันแรกของวันหยุดยาวค่ะทุกๆ คน หยุดหลายวันแบบนี้หลายๆคนคงกำลังมองหาเมนูใหม่ๆ ไว้ลองทำกันใช่มั้ยคะ งั้นวันนี้ตาลมีเมนูมื้อเช้าเก๋ๆ สำหรับวันพิเศษมาฝากกันค่ะ กับ "Egg Benedict" แล้วเมนูไข่มื้อเช้า จะไม่ใช่เมนูไข่แบบเดิมๆ อีกต่อไป พร้อมแล้วมาดูสูตรกันเลยนะคะ




ส่วนผสมสำหรับ 2 ที่
1. ไข่โพช (Poached egg) 2 ฟอง
2. ซอสฮอลันเดส (Hollandaise sauce) 4 ชต.
3. แฮมย่างให้หอม 4 ชิ้น (ตาลใช้ canadian ham ของ TGM ค่ะ)
4. ขนมปังชิ้นหนา 2 แผ่น (ตาลใช้ขนมปังนมสดทำเอง หั่นหนาและปิ้งขนข้างนอกกรอบ และข้างในนุ่มค่ะ)
5. ผักสลัดตามชอบ
6. พาสลี่ย์สับ หรือไทม์บด สำหรับโรยหน้า

วิธีทำไข่โพช (How to made poached egg)
1. ตั้งน้ำร้อน 1 ลิตร ใส่น้ำส้มสายชู 1-2 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนชา จนเดือด
2. เมื่อน้ำเดือด หรี่ไฟลงอย่าให้เดือดปุดๆ
3. ตอกไข่ใส่ถ้วย ใช้ไม้พายกวนน้ำให้เป็น น้ำวนช้าๆ ค่อยๆ เทไข่ลงในน้ำวน
4. รอจนไข่สุก 3-4 นาที ตักขึ้นพักไว้

หมายเหตุ: 1. การใส่น้ำส้มสายชูจะทำให้กรดช่วยให้ไข่ขาวจับตัวเป็นก้อนสวยงาม
                 2. เกลือจะช่วยให้ไข่ลอยไม่ติดก้นหม้อ
                 3. การกวนน้ำจนเป็นน้ำวน ไข่ขาวจะหุ้มรอบไข่แดงสวยงาม

วิธีทำ Hollandaise sauce
ส่วนผสม
1. ไข่แดง 3 ฟอง
2. เนยละลาย ใช้เฉพาะส่วนที่ใส 50 กรัม
3. เกลือ
4. พริกไทย
5. น้ำส้มสายชู หรือน้ำมะนาว


วิธีทำ
1. ตั้งหม้อน้ำร้อนจนเดือด แล้วหรี่ไฟลง
2. วางภาชนะที่จะใช้ทำ ซอสบนหม้อน้ำร้อน ระวังอย่าให้ก้นภาชนะ โดนหม้อโดยตรง
3. เทไข่แดงที่เตรียมไว้ลงในภาชนะ ใช้ตะกร้อมือคนเร็วๆ
4. ค่อยๆ เทเนยละลายลงในไข่ที่ตีไว้ คนตลอดเวลา เพื้อไม่ให้ไข่สุกจับตัวเป็นก้อน
5. ยกลงจากเตา ปรุงรสด้วย เกลือ พริกไทย น้ำส้มสายชูหรือน้ำมะนาวตามชอบ

หมายเหตุ
1. ภาชนะ ที่ใช้ทำซอสต้องทนความร้อน และไม่เป็นรอยง่าย
2. การทำซอสแบบข้างบน เรียกว่าการทำให้สุกโดยการตุ๋น หรือ double boil ซึ่งทำให้ซอสไม่ได้รับความร้อนจากไฟโดยตรง และทำให้ได้ซอสที่เนียนสวย (เหมือนทำสังขยาของไทยเลยค่ะ)
3. ระหว่างทำซอสควรคนตลอดเวลา เพื้อไม่ให้ซอสเป็นก้อน
4. วิธีการทดสอบว่าซอสข้นได้ที่หรือยัง ทำได้โดย จุ่มหลังช้อนลงในซอส แล้วใช้นิ้วปาดซอสเป็นเส้นตรง หากเห็นรอยปาดชัดและซอสค่อยๆไหลลงมาแปลว่าใช้ได้แล้วค่ะ


วิธีประกอบร่าง
1. วางขนมปังปิ้งบนจาน
2. วางแฮมที่ย่างจนหอมและไข่โพชที่เตรียมไว้บนขนมปัง
3. ราดด้วยซอสฮอลันเดส โรยหน้าด้วยพาสลี่ย์สับ หรือไทม์บด
4. ตกแต่งจานด้วยผักสลัดตามชอบ