review เตาอบไฟฟ้าขนาดเล็ก Part 1 ค่ะ

มาแล้วค่า review เตาอบขนาดเล็ก version บ้านน้ำตาลค่ะ

1. ตอนที่ตาลเริ่มทำขนม เตาอบตัวแรกเป็นยี่ห้อ Otto ค่ะ ตัวเล็กนิดเดียวประมาณ 18 ลิตรค่ะ

หน้าตาประมาณนี้เลยค่ะ

คุณลักษณะ

1. เตาอบแบบใช้ไฟฟ้า ขนาดเล็ก (มาก) จนสามารถย้ายเตาปิ๊งที่บ้านออกแล้วใส่เจ้านี่แทนได้
2. มีระบบแยกความร้อนบนล่าง ทำให้สามารถทำขนมที่ต้องการให้หน้าเกรียม เช่น ท๊อฟฟี่เค้ก หรืออบเฉพาะข้างล่างกรณีเค้กที่ทำหนาเกินไป หน้าจะไหม้แล้วก้นยังไม่สุกได้
3. เจ้านี่ไม่มีพัดลมค่ะ แต่ถ้ารุ่นใหม่จะมีพัดลมแล้วราคาไม่ต่างกันเท่าไหร่มีรูปรุ่นใหม่มาให้ดูด้วยค่ะ

 

ข้อดีของเจ้าตัวน้อยมีดังนี้ค่ะ

1.       ราคาถูกมากๆๆ ประมาณ 1500++ เอง กะว่าเอามาถ้าไม่รุ่งก็ทำเป็นที่ปิ้งหนมปังได้อยู่

2.       ร้อนเร็ว เพราะเครื่องเล็กนิดเดียว ทำให้ไม่ต้องใช้เวลาวอร์มเตามาก เปลืองไฟน้อยกว่าแบบตัวใหญ่

3.       ขนาดพอเหมาะ ตอนหัดทำขนมใหม่ๆ จะยังไม่ค่อยกล้าแจกใครค่ะ ทำอะไรก็เล็กๆ น้อยๆ เจ้านี่อบเค้กได้ใหญ่สุดแค่ 2-3 ปอนด์ อบคุ้กกี้ถาดนึงได้ไม่เกิน 12 ชิ้น ถ้าทำแล้วเจ๊ง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของคนเพิ่งหัดทำขนม ก็ไม่เสียดายของมากค่ะ

มาถึงข้อเสียบ้างค่ะ

1.       ด้วยความตัวเล็กทำให้หากทำได้เข้าที่แล้วอยากทำแจกเยอะ หรืออยากทำไปทำบุญ จะทำได้ทีละนิดทีละหน่อย ต้องอยู่หน้าเตากันไปทีละครึ่งค่อนวัน ตาลมีประสบการณ์ตอนทำของแจกปีใหม่ให้พี่หมี ก็แปลงร่างเป็นเอลฟ์ประจำบ้านอยู่หน้าเตาไป 3 วัน 3 คืน เสร็จปีใหม่ต้องได้ไปทำทรีตเม้นต์รักษาฝ้ากระกันเลยทีเดียว

2.       ข้อเสียของการไม่มีพัดลมคือเตาจะร้อนไม่ทั่วค่ะ ถ้าทำน้อยๆ ซักปอนด์ สองปอนด์ก็ไม่เป็นไร หากมากกว่านั้นอาจต้องเปิดเตามากลับตะแกรงตอนอบไปแล้วซักครึ่งเวลา นอกจากจะทำให้เค้กยุบไปหน่อยแล้วยังทำให้เราไปไหนไม่ได้อบแล้วต้องนั่งจ้องอยู่หน้าเตากลัวเค้กไหม้ (ตอนหัดทำใหม่ๆ รับรองไม่รุ้สึกว่าเป็นปัญหา เพราะอยากดูเค้กที่เราทำค่อยๆฟูขึ้น อย่างภาคภูมิใจ แต่พอซักหลายเดือนผ่านไป เราจะเริ่มอยากตั้งอบไว้แล้วไปนั่งอ่านนิยาย หรือไปทำนู่นนี่บ้างค่ะ

3.       หน้าบานกระจกเตา เป็นแบบกระจกชั้นเดียวแบบเตาปิ๊งที่เราใช้ปิ้งขนมปังค่ะ เพราะฉะนั้นข้างในร้อนเท่าไหร่ หน้าเตาก็ร้อนน้อยกว่านั้นนิ้ดเดียวค่ะ อยู่หน้าเตาวันที่อากาศร้อนๆนี่ หลับตาคิดว่านั่งอยู่ในห้องซาวน์หน้าเลยค่ะ

     เริ่มมีคำถามแล้วใช่มั้ยคะว่าดูมีข้อดีเยอะอยู่ ใช้งานได้ดีพอเหมาะกับความต้องการของแม่ครัวฝึกหัด แล้วทำไมตาลถึงเปลี่ยน คำตอบคือ “เจ้านี่เค้าตายในหน้าที่” ค่ะ วันนึงหลังจากตาลใช้เจ้า OTTO น้อยมาได้หลายเดือน และผ่านศึกปีใหม่มาอย่างทารุณ ตาลกำลังทำท๊อฟฟี่เค้กรอบ 2 อยู่ (บอกแล้วว่าเครื่องเล็กมากหากอยากทำแจกต้อง 2 รอบ UP) หลังอบตัวเค้กเสร็จ ก็อบหน้าแบบใช้ไฟบนต่อแต่เอ๊ะ อบไปตั้ง 20 นาทีแล้วไหงหน้าไม่เกรียมซักที พอเปิดออกดู เจ้า OTTO ก็ขาดใจตายไปซะแล้วไฟบนไม่ติด ตาลรีบพามาส่ง ER เอ้ยไม้ใช่ค่ะ        ส่งศูนย์ที่เดอะมอลล์ ช่างรับไปเช็คอาการอยู่ 2-3 วัน แต่สุดท้าย ช่างก็บอกว่าต้องรออะไหล่ (เพราะรุ่นนี้เค่าไม่มีขายแล้ว ที่มีเป็นรุ่นที่มีพัดลม) จนบัดนี้ก็ยังไม่ได้คืนมาเลยค่ะ T-T

2. เล่าถึงอดีตอันหวานชื่นไปแล้ว มาพบกับปัจจุบันที่ อึด และบึกบึนกันบ้างค่ะ

ตัวที่ตาลใช้ทุกวันนี้ ยี่ห้อ Alfa Kitch สีดำ หน้าตาดูเป้นพี่บึ้ก บึกบึน อดทน ตามรูปเลยค่ะ

คุณลักษณะ

1.       เตาอบไฟฟ้า ขนาด 28 ลิตร

2.       สีดำ ทำจากวัสดุที่เช็ดล้างได้ง่าย

3.       กระจกบานหน้ามี 2 ชั้น ช่วยป้องกันความร้อนออกจากเตา

4.       มีพัดลม ทำให้ด้านในร้อนทั่วกัน

5.       มีช่องระบายอากาศด้านข้างและด้านหลังทำให้ตัวเครื่องไม่ร้อนจนเกินไป

         ข้อดีของพี่บึ้ก ที่ทำให้ตาลตกลงปลงใจด้วยมีดังนี้ค่ะ

1.       ตาลชอบคนตัวโต เอ๊ย! ไม่ใช่แล้วค่ะ ชอบเครื่องใหญ่หน่อยต่างหาก พี่บึ้กตัวใหญ่กว่าน้อง OTTO หน่อยค่ะ อบขนมเค้กซัก 4 ปอนด์  หรืออบเค้กปอนด์ แบบ 2 ขั้น บนล่างสบายๆ อบคุ้กกี้ได้ 2 ชั้นบน ล่าง ชั้นละประมาณ 16 ชิ้นทำให้ประหยัดเวลาในการทำขนมได้มากทีเดียวค่ะ

2.       พี่บึ้กมีพัดลมทำให้ร้อนทั่วกันกว่าน้อง OTTO มาก และไม่ต้องกลับถาดอบหากเค้กที่อบไม่ใหญ่เกินไป

3.       กระจก 2 ชั้น ทำให้ตาลไม่เป็นเอลฟ์ประจำบ้าน หน้ามันหัวกระเซิงจากความร้อน ทำขนมเสร็จเอาทิชชูซับๆหน่อยก็ออกมานั่งทานขนมกับพี่หมีได้เลยค่ะ

4.       สุดท้ายพี่บึ้กมีสัญชาติไทยค่ะ ดังนั้นหากเสียก็ไม่ต้องรออะไหล่เมืองนอกให้นาน เพราะบ้านพี่บึ้ก อยู่แค่นิคมบางปะอินเองค่ะ

     ฟังข้อดีไปแล้ว มาดูข้อเสียพี่บึ้กกันบ้างค่ะ

1.       พี่เค้าตัวโต กว่าจะวอร์มให้ร้อนได้ก็ต้องใช้เวลาค่ะ น้อง  OTTO ไม่ถึง 10 นาทีก็ร้อนจี๋ ส่วนพี่บึ้กนี่ต้อง 20 นาที up ค่ะ

2.       พี่เค้ากิน (ไฟ) จุค่ะ เลี้ยงเค้าก็เปลืองไฟกว่าน้อง OTTO อยู่ค่ะ แต่ก้ขึ้นกับว่าทำบ่อยแค่ไหนด้วย ถ้าขี้เห่อทำทุกวันแบบตาลช่วงแรกๆก็อาจค่าไฟพุ่งพรวดได้ค่ะ

3.       ราคาพี่เค้า ประมาณ 4 พันกว่าค่ะ ถ้าลองทำใหม่ๆ แล้วไม่รุ่งก็อาจเสียดายเงินอยู่ค่ะ

4.       พอพี่เค้าตัวโต เวลาทำขนมที ถ้าทำเยอะๆ แล้วเจ๊งก็จะเสียของทีละเยอะๆ เหมือนกันค่ะ

วันนี้ขอเอามาให้ดู 2 ตัวที่ตาลเคยใช้ก่อนนะคะ แต่อย่าเพิ่งตัดสินใจไปค่ะ ตาลยังมีคู่แข่งอีก  1 ตัวที่ยังไม่ได้ review ให้ค่ะ รอดูให้ครบทั้ง 3 ตัว พร้อมกับบทสรุปเปรียบเทียบทั้ง 3 ตัวก่อนแล้วค่อยตัดสินใจนะคะ แล้วพบกันใหม่กับ review เตาอบ version บ้านน้ำตาลค่ะ